ตาบาเปรียญ.”โดนรุมฝืนใจในคืนฝนตกหนัก”

ตาบาเปรียญ.”โดนรุมฝืนใจในคืนฝนตกหนัก”
ฉันได้เข้ามาอ่านๆของบรรดาชายหนุ่มๆที่ส่งเข้ามาเล่าประสบการณ์ ของตนให้เราท่านๆได้อ่าน แล้วก็ฉันกับเพื่อนพ้องก็เข้ามาใช้บริการในเวปนี้มาได้ไม่นาน โดยทีแรกๆเพื่อนพ้องที่ชื่อ อร เป็นผู้แนะนำ ทีแรกก็ยังไม่กล้ามอง ไม่กล้าอ่านเพราะว่ากลัวพวกเพศชายในบริษัทจะทราบดีแล้วเอาไปล้อ อรก็พูดว่าไม่มีผู้ใดทราบหลอกว่าพวกเราใช้เครื่องคอมพิวเตอร์อยู่เพียงลำพังภายหลังจาก ได้อ่านประสบการณ์ของเพื่อนพ้องๆที่ส่งเข้ามาก็รู้สึกต้องการ ไปตามจินตนาการของตน ฉันก็มีประสบการณ์แบบนั้นเช่นกัน แม้กระนั้นเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีเอามากๆซึ่งเกิดเรื่องยุคทำงานในบริษัทส่งออกนี้ใหม่ ในตำแหน่งพนักงานที่มีหน้าที่สำหรับบัญชี ฉันชื่อว่าเหน่ง อายุ 33 ปี ผิวขาว รูปร่างท้วมๆไปทางเจ้าเนื้อหน่อย จบปริญญาตรีจากมหาลัยเอกชนแถววิภาวดี-รังสิต หลังสำเร็จการศึกษาออกมาก็ทำงานมาหลายบริษัท มีคนมาจีบก็มากมาย แม้กระนั้นเหน่งรู้ดีว่าพวกเพศชายพวกนี้หวังอะไรที่อยู่ในตัวเหน่งแน่ถึงมาประพฤติดี เหน่งก็ยังระแวดระวังตัวมาตลอด ไม่กล้าไปไหนมาไหนกับคนไหนกันโดยลำพัง สองต่อสอง ถ้าหากจะไปควรจะมีเพื่อนพ้องไปเป็นกรุ๊ป เมื่อไม่กี่ปีให้หลังเหน่งได้ย้ายที่ปฏิบัติงานใหม่มาอยู่ที่ท่าเรือลำคลองเตย เหน่งกลับไปอยู่ที่บ้านเย็นดูเหมือนจะทุกวัน เพราะว่าบ้านของฉันอยู่บางแค เพียงพอเลิกงานก็จำเป็นต้องรีบขึ้นรถกลับไปอยู่ที่บ้าน เดินทางอย่างงี้ตลอดมา แล้วก็ดูแลตัวตลอดจะไม่กลับไปอยู่ที่บ้านดึกดื่น ถ้าหากกลับดึกดื่นก็จะนั่งแท๊กซีเข้าบ้าน ทางลำคลองเตยไปบ้านพัก เป็นถนนสายใหญ่ไม่มึด แม้กระนั้นจำเป็นต้องต่อรถเมย์ถึง2 ต่อถึงใกล้จะถึงบ้านได้แล้วก็สถานะการณ์ที่ไม่คิดที่จะทำให้ฉันควรจะมีตาบาปจนถึงทุกวันนี้เพราะว่าได้ เดรฉานคนงานที่ท่าเรือลำคลองเตย ที่พวกมันทำให้ฉันควรจะมีความมัวหมองในวันสิ้นเดือน เป็นวันเงินออกของบริษัทฉัน เพื่อนพ้องๆผู้อื่นก็มีนัดหมายกับแฟนคลับแล้วก็ครอบครัวส่วนที่ยังไม่มีครอบครัวก็จะไป หาร้านอาหารดื่มกินกันบ่อยๆ ส่วนตัวฉันนั้นจำเป็นต้องมานั่งปฏิบัติงานปิดบัญชีปลายปีอยู่เพียงลำพังเพราะว่าปฏิบัติงานไม่ทัน เพื่อนพ้องสถานที่สำหรับทำงานบัญชีอีกคนก็ลาคลอด งานทั้งหมดทั้งปวงก็หนักอยู่ที่ฉันผู้เดียว วันนั้นฉันรีบปฏิบัติงานในกลางวันอย่างรีบเร่ง โดยที่ไม่ไปพักรับประทานข้าวช่วงกลางวันด้านนอก บอกเพื่อนพ้องว่าจำเป็นต้องรับปิดบัญชีให้หมดเพื่อจะได้ไม่กลับไปอยู่ที่บ้านดึกดื่นฉันนั่งปฏิบัติงาน จนกระทั่งลืมเวลาไปเลยว่ากี่นาฬิกาแล้ว เพียงพอปฏิบัติงานเสร็จรีบเก็บเครื่องใช้แล้วก็หันไปมองนาฬิกาตรงเวลา 3 ทุ่ม ฉันกำลังจะเดินออกมาจากบริษัท ฝนก็ตกลงมาอย่างมาก ฉันก็มองหายามที่เฝ้าบริษัท แม้กระนั้นก็มองไม่เห็น ฉันมีความคิดว่ายามคงไปดื่มเหล้ากับเพื่อนพ้องยามแถวโรงเก็บของท่าเรือแน่ ฉันยังกล่าวลอยๆไปอีกว่า ถ้าลักขโมยเข้ามาลักขโมยแล้วจะทำยังไง ยิ่งในบริษัทมีสิ่งล้ำค่าหลายแบบคราวอีกทั้งคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ 3 เครื่อง ฉันก็นั่งรอคอยให้ฝนหยุดตก ยิ่งนั่งรอนานเท่าใดก็ไม่ทราบฝนก็ยังตกอยู่แล้วก็ยิ่งแรกขึ้น แล้วก็อยู่ดีฉันก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าลงมาข้างหลังอาคารต่อไป จนกระทั่งทำให้กระแสไฟฟ้าดับอีกทั้งอาคาร ฉันมีความคิดว่าสักครู่ก็ติด เพราะว่าเคยเป็นอย่างงี้ประจำ แม้กระนั้นคราวนี้ไม่เป็นแบบนั้น ฉันกลัวก็กลัว จะกลับไปอยู่ที่บ้านก็กลับมิได้ฝนตก ฉันนั่งอยู่ข้างในห้องเครื่องปรับอากาศ เพียงพอไฟดับอากาศในห้องก็อบอ้าว ร้อนหายใจไม่ออก ฉันก็เลยเดินไปเปิดหน้าต่างออก 1 บ้าน ทางข้างหลังบริษัท เป็นห้องที่ฉันปฏิบัติงานอยู่ แล้วก็ฉันก็มองออกไปที่รั้ว มองเห็นเงาคนอยู่ที่รั่วฉันก็นึกว่ายามบริษัท ก็เลยตะคอกถามคำถามว่านั้นยามใช่ไหม เสียงฝนก็ดัง ฉันได้ยินเสียงตอบกลับมาแววว่าใช่ แม้กระนั้นเสียงแปลกๆฉันมีความคิดว่าอาจดื่มเหล้ามากมายจนกระทั่งเสียงแหบ ชั่วประเดี๋ยวผู้ที่ฉันมีความคิดว่าเป็นยามก็เดินเข้ามาถึงตัวฉัน เมื่อฉันดูไปที่รูปร่าง ใบหน้าที่ไม่คุ้นหน้าฉันถึงกับตกอกตกใจแทบจะเป็นลมเป็นแล้ง พวกนั่นก็คือคนงานสถานที่สำหรับทำงานอยู่ที่ท่าเรือนี้เอง ซึ่งเมื่อใดก็ตามฉันเดินผ่านก็จะถูกพวกมันเย้าแหย่อยู่เป็นประจำ แล้วก็ฉันก็ยังดุด่าพวกมันอีก มาในคืนวันนี้พวกมันอีกทั้ง2คน ก็มากันครบ ฉันไม่บางทีอาจทายใจได้ว่าพวกมันจะเข้ามาทำอะไร แม้กระนั้นที่แน่นอนถ้าหากคืนวันนี้ฉันหนีมันไม่พ้น ก็จำเป็นต้องโดนมันรุมฝืนใจฉันแน่นอนเพียงพอไอ้ผู้ที่ชื่อแดงมันดึงเสื้อฉันจนกระทั่งล้มกลิ้งแล้ว มันก็ดุด่าอีสัตว์เอ็งจะหนีเราไปไหนคืนวันนี้เอ็งควรจะเป็นภรรยาเราเสียดีๆไม่แบบนั้นตาย มันยิ่งบอกอย่างงี้ฉันยิ่งกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันร้องดังเท่าใดก็ไม่มีผู้ใดได้ยินเสียงฉัน พวกมันลากตัวฉันเข้าไปในห้องทำงานของฉัน พวกมันช่วยเหลือกันปัดกวาดกองเอกสารบนโต๊ะลงกับพื้น แล้วก็อุ้มตัวฉัน แล้วไอ้แดงมันก็รูดซิบกระโปรงยาวสีดำของฉัน ออกแล้วก็ดึงลงมากับพื้นของห้อง ฉันอายแสนอาย ยังดีที่กระแสไฟฟ้าที่ห้องดับอยู่ก็เลยไม่อายมากยิ่งกว่านี้ แม้กระนั้นฉันไม่เห็นเพื่อนพ้องมันอีกคนว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทราบแต่ไอ้แดงมันกำลังขยำนมฉันอย่างแรงจนกระทั่งฉันร้องออกมาจนกระทั่งแทบจะไม่มีเสียงแล้วก็ วิงวอนให้ปลดปล่อยฉันไป ฉันก็อุตสาหะดิ้นหนีมืออันสากดำของไอ้แดงให้พ้น แล้วก็ใช้ท้าวถีบมัน ได้แดงมันตวาดฉันแล้วก็ตบเข้าที่เข้าทางหน้าจนกระทั่งเจ็บ แล้วมันก็ดึงเสื้อยกทรงสีขาย ลายกลอุบายที่เวลานี้สกปรกโคนจนกระทั่งมีสีดำ มันก็เอาขึ้นมาดมแล้วก็ยังกระซิบบอกข้างหูฉันว่า ขนาดแฉะอย่างงี้นังหอมอยู่เลย แล้วนมกับหม้อของคุณจะหอมแค่ไหนจะน้องสาว ยังบอกไม่ทันขาดปากมันก็ดึงกางกางในตัวจิ๋วของฉันติดมือมันขึ้นมาสูดดมแล้วก็เอามา ยัดใสปากฉัน แม้กระนั้นฉันก็คลายออกไปเพราะว่าหายใจไม่ออก ฉันก็ยังวิงวอนความให้การช่วยเหลืออยู่เสมอเวลา ครู่หนึ่งฉันไม่มั่นใจว่ามันเป็นอย่างไรที่อยู่ในปากฉัน มีกลิ่นเหม็นกลิ่นคาวมากมายแล้วก็เค็ม ฉันสูดดมแล้วแทบจะอ๊วก ไอ้แดงมันพูดว่าของเอ็งเองไม่สูดดม แบบนั้นเอ็งอมของเราแล้วกัน แล้วจู่ๆกระแสไฟฟ้าก็สว่างขึ้น จนกระทั่งทำให้ฉันตกอกตกใจมากกว่าเดิม เมื่อสิ่งที่ฉันมองเห็นมันเป็นไอ้แดงยืนเปือยอยู่ที่ขอบโต๊ะ แม้กระนั้นมองไม่เห็นเพื่อนพ้องมันอีกคน แล้วไอ้แดงมันก็เข้ามาเลียตัวฉัน จนกระทั่งฉันรู้สึกรังเกียจ ฉันก็อุตสาหะดิ้นให้พ้นมันให้ได้แม้กระนั้นก็ไม่เป็นผลสำเร็จ แถมมันยังโกรธ แล้วก็ต่อยเข้าที่เข้าทางท้องน้อยอย่างแรงจนกระทั่งฉันจุก ไม่มีแรงต่อสู้ มันก็เลยจับขาฉันถ่างออก และจากนั้นก็หัวเราะ แล้วกล่าวว่า มาเป็นภรรยาพีแดงเสียเหอะ แล้วมันก็ยัดท่อนเนื้อสีดำ ขนาดพอๆกับกระบอกไฟฉายฉันร้องพูดว่าเจ็บให้คัดออกแล้วก็ขวนข้างหลังมันจนกระทั่งหนังติดเล็บ แม้กระนั้นมันก็ยังไม่หยุดเห็นอกเห็นใจฉัน มันยิ่งชนอย่างไม่ปราณีเข้าไปอีก จนกระทั่งมิดเข้าไปชนถึงมดลูก เยื้อพรหมจารีย์สุดที่รักษามาเกือบจะ30 กว่าปีก็จำเป็นต้องวอดวายเพราะว่าไอ้สัตว์ป่าแดงนี้เอง เพียงพอมันเริ่มชักเข้าชักชักออกจนกระทั่งน้ำของฉันมันแตกมาตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ แล้วก็มีเลือดออกออกมากับน้ำกามด้วย ยิ่งทำให้มันหึกเหิมใหญ่ว่าได้ฟันสาวทึนทึกที่ยังไม่เคยผ่านมือชาย แล้วมันก็พ่นน้ำรักใส่ชองคลอดฉันจนกระทั่งล้นออกมาสกปรกโต๊ะทำงานของฉันเอง มันก็ชักท่อนเนื้ออกมาเช็ดที่อกฉันจนกระทั่งเฉอะแฉะไปหมด แล้วมันก็เรียกเพื่อนพ้องมันว่าหาพบหรือยัง เพื่อนพ้องมันก็เดินออกมาจากห้องผู้จัดการพร้อมด้วยขวดน้ำอดลมขวดเล็ก1ขวด แล้วก็เดินแก้ผ้ามายังฉัน แล้วก็ฉันชำเลืองไปดูท่อนเนื้อของมันที่มีสีดำมันดังไอ้แดงแม้กระนั้นใหญ่มากยิ่งกว่า แล้วก็รอบท่อนเนื่อยังเม็ดตุ่มๆขึ้นรอบท่อนเนื้อของมัน ฉันมีความคิดว่ามันเป็นโรคแน่นอนฉันก็เลยบอกให้มันใส่ถุงยางอนามัยเหอะเดียวฉันติดเชื้อโรค โดนพวกมันกระทำชำเราแล้วยังมาติดโลกอีกก็ตายเสียดีกว่า ฉันบอกพวกมันแบบนั้น มันก็พูดว่าเรามิได้เป็นโรคหลอก มันเป็นมุก เราอุสาห์ฝั่งไว้ตั้งนานแล้วยังไม่เคยใช้กับคนไหนกันเลย เอ็งเป็นคนแรกที่ลิ้มรสของเรา ไอ้แดงมันก็บอกกับเพื่อนพ้องมันว่า มันจะรับไหวหรือขนาดเอ็งท่องเที่ยวกระหยี ขนาดกระหรีโคกใหญ่ๆ  มันยังร้องลั่นห้องเลย แล้วอีนี้มันยังใหม่ พึงจะโดนเราไปที่สักครู่สักครู่หอยมันก็พังทลายหมดหลอก เพื่อนพ้องของไอ้แดงมันไม่สนใจอะไร มันก็เอาขวดน้ำอัดลมใบนั้นดันเข้ามาในทราบของฉัน แม้กระนั้นมันก็เข้าง่ายเพราะว่าเมื่อตะกี้โดนของไอ้แดงน่ำร่องแล้วยังไม่หุบเลย แล้วมันก็ชักเข้าชักออกอย่างรวดเร็วจนกระทั่งฉันเสียวไปหมดแล้ว ก็เลยร้องบอกมันว่าอย่าแกล้งฉันเลยปลดปล่อยฉันไปเหอะมันก็พูดว่าสักครู่เราปลดปล่อยแน่ขอพวกเราบันเทิงใจกันอีกคนละ2รอบ ฉันถึงกับตกอกตกใจ นี้ขนาดของมันยังไม่เข้าเลยมันจะเอาอีกหลายรอบ แล้วมันก็ดึงขวดน้ำอัดลมออกแล้วก็ฉีกขาฉันออกจนกระทั่งกว้างไม่เหลืออะไรอีกเลยที่เคย รักษาตลอดมาดูแลตัวมาตลอด เพื่อนพ้องไอ้แดงมันก็จับท่อนเนื้อของมันดันเข้าหอยฉันค่อยจนกระทั่งฉันไม่ทราบสึกอะไร เพราะว่ามันยังไม่เข้าไปด้านใน เพียงแค่จ่อไว้ที่ปากถ่ำ ฉันก็กลัวจนกระทั่งตัวเกร็งจนกระทั่งไม่ได้อยากจะคิดอะไร แล้วมันก็ดันท่อนพื้นที่ฝังมุกไม่ทราบกี่เม็ดเข้าทราบฉันที่เดียวมิดด้ามจนกระทั่ง สุดแบบไม่ปราณี ฉันถึงกับร้องตะโกนล่น ว่าแหกแล้ว+++ฉัน คัดออกๆๆๆๆๆๆๆมันก็ได้จิตใจชักเข้าชักออกอย่างบ้าคลั่ง เม็ดมุกที่มันฝังไว้มันขูดรูฉันอย่างแสบๆคันจนกระทั่งฉันทนไม่ได้ขมิบหอยโดยไม่ทราบ ตัวว่ากำลังเริ่มจะมีอารมณ์กับมันไปด้วย มันเอาฉันอย่างงี้จนกระทั่งน้ำฉันแตกแล้วแตกอีกแม้กระนั้นของมันยังไม่ออก หอยฉันก็อีกทั้งร้อนอีกทั้งเจ็บ เกือบจะ10 นาทีมันก็ชักท่อนเนื้อของมันออกมาที่หน้าฉันแล้วก็พ่นพิษใส่หน้าฉันเยอะแยะ ต่อไปฉันก็หมดแรงที่จะสู้มัน พวกมันก็ผลัดกับหมุนวนอยู่กับหอยฉันอยู่เกือบจะเช้าตรู่แล้วก็มันก็เลยปลดปล่อยฉัน มันข่มขู่ฉันว่าอย่าเอาการนี้ไปแจ้งตำรวจหรือใครๆทราบ ถ้าหากแจ้งมันจะกลับมาฆ่าฉันภายหลังจากวันนั้นมาฉันก็ไม่กล้าไปปฏิบัติงานที่นั้นอีกแล้วก็ยื่นใบลาออกไปอยู่ชนบท เวลานี้ฉันก็เปลี่ยนเป็นสาวยุคใหม่กล้าท่องเที่ยวมากยิ่งกว่าเดิม แล้วก็มีผัวเป็นผู้จัดการบริษัทที่ฉันปฏิบัติงานอยู่ แล้วก็ถ้าหากได้โอกาสจะส่งเรื่องเล่าชีวิตของฉันที่แสนเสื่อมเสียมาเล่าให้ฟัง